welcome

zwani.com myspace graphic comments

วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ระวังดาบสองคมแจกแท็บเล็ต ป.1 แนะทบทวนกลุ่มอายุก่อนแจก

          
ตามที่พรรคเพื่อไทยได้ประกาศนโยบาย One Tablet One Per Child หรือ แจกแท็บเล็ตให้แก่นักเรียนชั้น ป.1ทุกคน นั้น รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่านโยบายนี้เป็นดาบสองคม ที่มีข้อดีคือเด็กไทยจะก้าวเข้าสู่โลกสมัยใหม่และค้นคว้าข้อมูลได้ง่ายขึ้น แต่ข้อเสียคือ เด็ก ป.1 ยังอ่านและเขียนไม่ได้ ช่วงเลิกเรียนควรให้ออกกำลังกายหรือเรียนรู้การเข้าสังคมกับเพื่อนฝูง แต่ถ้ามีการแจกแท็บเล็ต จะทำให้เด็กหมกมุ่นกับเกมคอมพิวเตอร์อยู่กับตนเองหรือเพื่อนเพียง 2-3 คน และไม่มีสังคมซึ่งเด็กจะขาดพัฒนาการด้านร่างกายและจิตใจ อีกทั้งงานวิจัยหลายสิบชิ้นพบปัญหาว่า เด็กเล็กส่วนใหญ่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการเล่นเกมมากถึง 70% จะมีเพียง 15% เท่านั้นที่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนรู้

           รศ.ดร.สมพงษ์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้งานวิจัยยังยืนยันว่า เด็กที่ถูกผลักออกจากระบบโรงเรียน เนื่องจากคะแนนเรียนไม่ดี พฤติกรรมไม่ดี สาเหตุหลักมาจากการติดเกมคอมพิวเตอร์ ไม่สนใจการเรียน ไม่รักการอ่าน ดังนั้นตนเห็นว่าถ้ามีการแจกแท็บเล็ตอาจทำให้เด็กติดเกมมากขึ้น จึงอยากให้พรรคเพื่อไทยพิจารณานโยบายนี้อย่างรอบคอบ แม้ว่าจำเป็นต้องทำตามนโยบายที่ประกาศไว้ แต่ควรพิจารณากลุ่มอายุของเด็กที่จะแจกอีกครั้ง มิฉะนั้นจะส่งผลร้ายต่อเด็กมากกว่าผลดีแน่นอน

           ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน อดีต รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า การนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยการเรียนการสอนเป็นเรื่องดี แต่เทคโนโลยีเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ที่สำคัญต้องพัฒนาครู และเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอนด้วย เพราะทุกวันนี้มีคอมพิวเตอร์ แต่ไม่มีบทเรียนที่ดี จึงไม่เห็นจะเกิดประโยชน์อะไร

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษา ธิการ กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่รัฐบาลใหม่ประกาศไว้ตอนหาเสียงชัดเจน คือ การจัดซื้อแท็บเล็ตแจกนักเรียน ก็ขอให้ดำเนินการตามที่หาเสียงไว้ เพราะเป็นความคาดหวังของเด็กที่อยากได้แท็บเล็ตมาใช้ในการเรียนการสอน แต่ก็ขอว่าอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องทำควบคู่กันไปกับการเดินหน้าด้านเทคโนโลยีทาง การศึกษากองทุนเทคโนโลยีทางการศึกษาที่อยากขอให้ช่วยผลักดันให้มีกฎหมายรอง รับชัดเจน พร้อมขยายผลเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้ทั่วถึงทุกพื้นที่ด้วย

           “การจัดซื้อแท็บเล็ตให้เกิดประสิทธิภาพต่อนักเรียนนั้น จะต้องมีศูนย์การเรียนรู้แห่งชาติในการผลิตเนื้อหาสำหรับให้นักเรียนได้ใช้ สอดรับกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน และองค์ความรู้ใหม่ที่มีมากขึ้น อย่าคิดแต่เพียงการซื้อขายด้านไอทีเท่านั้นแต่ควรจะคิดถึงระบบคุณภาพทาง เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาอย่างแท้จริงด้วย” นายชินวรณ์กล่าวและว่า สำหรับการดำเนินงานด้านการศึกษาอยากให้ รมว.ศึกษาธิการคนใหม่ทำให้เป็นวาระแห่งชาติไม่ควรนำการเมืองเข้ามาจัดการ ศึกษา แต่ควรเร่งเดินหน้าปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สองให้สู่เป้าหมายอย่างแท้จริง นอกจากนี้อยากขอให้รัฐบาลใหม่เดินหน้าโครงการเรียนฟรี 15 ปีอย่างต่อเนื่อง โดยเรื่องสำคัญที่สุดคือการรับนักเรียนจะต้องทำให้โปร่งใสและเป็นธรรมอย่า ให้มีเด็กฝากเกิดขึ้น เพราะตนในฐานะฝ่ายค้านจะตรวจสอบและติดตามเรื่องนี้เอง.


ที่มา เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี ที่ 07 กรกฎาคม 2554

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม